ตลาดหนังแผ่น : กรณีศึกษาสำหรับหนังอินเดียในไทย
ยุคนี้เครื่องเล่นวีซีดีราคาเฉลี่ยเครื่องละประมาณหนึ่งพันบาท ทำให้ตลาดหนังแผ่นหรือ
วีซีดีเฟื่องฟู การตลาดหนังแผ่นอินเดียก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย
สำหรับตลาดหนังอินเดีย ประเภท วีซีดี ดีวีดี ที่นำมาทำพาย์ไทยแล้วจัดจำหน่าย เท่าที่ติดตามสำรวจตลาดหนังอินเดียที่ทำเป็น วีซีดี ( ดีวีดี ยังมีน้อย ) มีข้อสังเกตุดังนี้
1 ผู้ชมผู้ซื้อกลุ่มลูกค้า
1.1 กลุ่มผู้ชม ส่วนใหญ่ เป็นสุภาพสตรี ส่วนสุภาพบุรุษก็พอมี แต่เมื่อเทียบสัดส่วนยังน้อยกว่าสุภาพสตรี
1.2 ผู้ซื้อผู้ชม ยังขาดข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหนังอินเดีย ทั้งเรื่องที่วางตลาด และที่น่าสนใจ
1.3 ผู้ซื้อ มักจะตัดสินใจเลือกซื้อจากการพิจารณา
- ดารานำแสดง ( แน่นอนว่า หนังSRK มาอันดับหนึ่ง)
- จากนั้นจะพิจารณาสไตล์หนัง ซึ่งหนังแนวรัก ชีวิต จะได้รับความนิยมมากกว่าประเภทบู๊
- แพคเกจรูปลักษณ์ หน้าปก ถ้าสวยก็ชวนซื้อ ยิ่งเป็นชุดสามแผ่นใส่กล่องก็ยิ่งน่าสนใจแฟนขาประจำก็ตัดสินใจซื้อไม่ยากเพราะเข้าใจ (ว่าหนังไม่โดนหั่นออก)
1.4 ผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังเขิน ๆ อยู่บ้างในการเลือกซื้อหนังอินเดีย อาจเพราะเกรงว่าจะถูกมองหาว่าว่าเชย(ทั้ง ๆ ที่ความจริง หนังอินเดีย โกอินเตอร์นานแล้ว ของไทยเพิ่งจะโกจริง ๆ จากองค์บาก )
เคยด้อม ๆ มอง ๆ คนซื้อ มีหลายรายที่ไม่ดิ่งเข้าไปตรงหนังอินเดียโดยตรง แต่จะค่อย ๆ ค้น ค่อย ๆ เลือก แล้วจึงกระเทิบเข้าไปใกล้หนังอินเดีย
เท่าที่เคยพบมีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณครูสุภาพสตรีพาเด็กนักเรียนประมาณชั้นประถมต้นไปเลือกหาซื้อหนังแผ่นด้วย ขณะครูเลือกหนังอินเดียหยิบขึ้นดูหน้ากล่องพลิกไปมา เด็กนักเรียนที่ติดตามไปด้วยถามอย่างใสซื่อตามประสาเด็กว่า
ครูชอบดูหนังอินเดียหรือคะ เหมือนแม่หนูเลย แม่หนูก็ชอบค่ะ
เสียงใส ๆ จากคำถามทำให้คนในร้านหันไปมอง บางคนอมยิ้มนิด ๆ ครูสาวไม่ตอบคำถามศิษย์ตัวน้อยที่ชอบถามซอกแซกนอกหลักสูตร แต่คุณครูสังเกตเห็นหลายคนมองมาที่เธอ เธอวางหนังอินเดียกล่องนั้นลง แล้วเดินไปเลือกหนังประเภทอื่นแทน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณครูคนเดิมก็เดินกลับมาชั้นที่วางหนังอินเดีย หยิบไปสองสามเรื่องให้คนขายคิดเงินใส่ถุงแล้วเดินออกไป
นี่เป็นตัวอย่างหนุ่งที่ได้เคยพบมาก็พอจะเป็นภาพสะท้อนประเด็นนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย
1.5 ผู้ซื้อผู้ชมไม่ค่อยมั่นใจในหนัง ทั้งนี่อาจเนื่องจากเคยเจอหนังแผ่นที่ทำออกมาแบบลดต้นทุน ทั้งเนื้อหนัง การพากย์ ตัดทอนสั้นลงจนบางเรื่องดูแล้วขาดอรรถรสไปเยอะ บางเรื่องก็เป็นหนังเก่า หนังต้นทุนต่ำ หนังลดราคาขายตามตลาดนัด ตลาดล่าง เรื่องละ 19 บาท 29 บาท หรือ 4 เรื่อง 100 ทำให้ผู้ชมบางส่วนคิดว่าหนังอินเดียมีแค่เนี๊ยะ
สำหรับผู้ขาย
การวางจำหน่ายหนังอินเดียยังค่อนข้างจำกัด บางร้านก็พอมี บางร้านก็ไม่มีจำหน่าย หรือมีแต่ยังน้อย(เมื่อเทียบกับหนังฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ) ยิ่งถามหาหนังอินเดียบางเรื่อง คนขายส่วนใหญ่ก็ยิ่งไม่รู้
แต่บางร้านก็ค่อยยังชั่ว จัดไว้เป็นโซน ๆ หนังแต่ละชาติ แต่ละประเภท ซึ่งร้านประเภทนี้ยังมีไม่มากนัก ( ที่เห็นเช่นบางร้านในย่านคลองถม )
แฟนหนังอินเดียขาประจำก็ยังพอรู้แหล่งรู้ที่ แต่ถ้าเป็นขาจร หรือรายใหม่แล้ว โอกาสจะหาหนังอินเดียค่อนข้างยาก
ระบบการจัดจำหน่าย วีซีดี ผู้จัดจำหน่าย ผู้ได้รับสิทธิ์ เมื่อผลิตออกมาแล้วจะกระจายสินค้าออกไปตามระบบการตลาด มียี่ปั้ว ซาปั้ว ซี่ปั๊ว ฯลฯ
หนังดัง ๆ เป็นที่ต้องการของตลาดจะมีอำนาจต่อรองมาก ทั้งด้านราคาขายส่ง เทอมการชำระเงินหรือเครดิต หนังพ่วง ( หนังที่บังคับซื้อพร้อมกับหนังดัง )
หนังที่ตลาดต้องการส่วนใหญ่เป็นหนังโรง ที่เคยฉายโรงหนังโรงใหญ่ มีโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ ทีวี สื่อต่าง ๆ เช่นบิลบอร์ด ยิ่งเป็นหนังทำเงิน หรือหนังที่ได้รับความนิยมในการเข้าฉายโรงหนัง เมื่อนำมาทำหนังแผ่น หนังเหล่านี้จะมีจุดขายที่เข้มแข็ง ผู้จัดจำหน่ายก็มีพาวเวอร์ (จนบางราย เว่อ ไปเลย )
ตลาดหนังแผ่นมีศูนย์กลางอยู่ที่ย่านคลองถม และ สะพานเหล็ก วันดีเดย์ออกวางจำหน่ายจะจัดเป็นล๊อค แบ่งเป็นเขต เป็นโซน มีทั้งตลาดขาย และ ให้เช่า
กลยุทธการตลาดมีกี่เล่มเกวี่ยน มีกี่กระบวนท่า ต่างก็งัดมาใช้กันจ้าละหวั่น เซลวิ่งกันตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต เนื่องจากเม็ดเงินในตลาดมหาศาล
กลับมาดูตลาดหนังแผ่นอินเดียในไทย( เฉพาะที่พากย์ไทย) ในเมื่อหนังอินเดียในไทย แทบไม่ได้ฉายตามโรง ( จะมีบางเรื่องที่นำเข้ามาฉายเพียงรอบ สองรอบ) โฆษณาทางหน้าหนังสือพิมพ์จึงไม่มี ทางทีวีหรือสื่ออื่นก็ไม่มี
เมื่อมีการนำหนังอินเดียมาทำเป็นหนังแผ่น พากย์ไทย ไม่ค่อยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือถ้ามีก็นิดหน่อย หรือเล็ก ๆ ( แทบต้องเอาแว่นขยายส่องดู )
อาจเพราะว่างบประมาณการโฆษณาจำกัด หรือยังไม่พร้อมที่จะทุ่มเพื่อสร้างตลาด หรืออาจเนื่องจากนโยบาย การตลาดซึมลึกแบบน้ำซึมบ่อทราย ที่ค่อย ๆ ขาย ไม่ต้องทุ่มอะไรมาก เพราะมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว
บางรายอาจเห็นว่า ไม่น่าเสี่ยง ที่จะโปรโมท เพราะจุดคุ้มทุนสูง
ต้นทุนการผลิตหนัง มีตั้งแต่ค่าลิขสิทธ์ ค่าทำบท ค่าพากย์ ค่ามาสเตอรริ่ง
เฉพาะค่าปั๊มแผ่นวีซีดี หนังอินเดียมาตรฐาน อย่างต่ำต้อง 3 แผ่นต่อเรื่อง ซึ่งสิ้นเปลืองกว่าหนังทั่วไปที่เฉลี่ยเป็น วีซีดี 2 แผ่น
หนังแผ่นอินเดีย เมื่อรวมกับค่าแพ๊ค ค่ากล่อง ค่าปก ก็ย่อมสูงไปด้วย แต่หนังแผ่นอินเดียวีซีดี ราคาขายปลีกเฉลี่ยก็ไม่สูง ประมาณเจ็ดสิบ แปดสิบบาท จนถึงถึงร้อยเศษ ๆ ลูกค้าทั่วไปพอมีกำลังซื้อได้
ปัจจุบันหากจะประมวลจากปัจจัยส่งเสริมคือการพัฒนาคุณภาพของหนังอินเดียดีขึ้น การค้าระหว่างไทยกับอินเดียขยายตัวขึ้น อินเดียเองก็ปรับทิศทางการลงทุนการตลาดระดับนานาชาติ อนาคตการตลาดหนังอินเดียในระดับนานาชาติจึงมีโอกาสก้าวหน้าไปมาก โดยมีฐานผู้ชมจากชาวอินเดียเป็นพื้น ต่อยอดด้วยผู้ชอบความเป็นตะวันออก และกลิ่นอายแห่งอารยะธรรมภารตะ
กอปรกับ จุดขาย หนังอินเดียที่มีดาราระดับแม่เหล็ก อาทิ ซาฮ์ รุข ข่าน อมิตาป บาจาห์น อิสวารายา ไร ปรีตี้ วินต้า จอห์น อับบราฮัม ฯลฯ เป็นตัวชูโรง มีการถ่ายทำในต่างประเทศ ร่วมทุนกับต่างชาติ หรือแม้กระทั่งนำนักร้องจากต่างชาติเข้าไปร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ( DHOOM )
ที่น่าจับตาคือ ระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม มีช่องหนังอินเดีย มิวสิควีดีโออินเดีย แพร่ภาพกว้างไกลไปทั่วโลก ย่อมส่งผลให้การตลาดหนังอินเดียขยายไปทั่วโลก
สำหรับรอบ ๆ เมืองไทยเรา ในมาเลย์เซีย สิงคโปร์ นั้น หนังอินเดียได้รับความนิยมไม่น้อยหน้าใคร ยิ่งดีวีดีหนังอินเดียบางเรื่องนอกจากมีซับภาษาอังกฤษแล้วยังมีภาษามาเลย์อีกด้วย
สำหรับในไทยก็ดูทีท่าว่าน่าจะไปได้แต่ทั้งนี้ต้องมีการนำเสนอข้อมุลข่าวสารอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผู้ค้า ผู้ผลิต ครีเอทีฟ ก้อปปี้ไรเต้อร์และสื่อมวลชนต้องทำการบ้าน มากขึ้น
ที่จริงข้อมูลหนังบอลลีวู๊ดทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็มีท่วมท้น อัพเดทกันตลอด หรือแมกกาซีนหนังอินเดีย( อาทิฟิล์มแฟร์ ) ก็มาตรฐานสูง
ดังนั้นการโปรโมทหนังอินเดียคงไม่เป็นเรื่องเหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำได้ ( แต่ขอร้องเถอะ...อย่าโปรโมท แบบเฉิ่ม ๆ เช่นว่า นำโดย...บ...บ...บ....ชื่อฝรั่ง ดังในไทย แต่นามสกุลย้ายไปอยู่บอมเบย์ ควรหาอะไรที่ใช้กี๋นมากกว่านี้หน่อย ได้โปรดเถอะ......)
ชื่อหนังก็ตั้งให้เข้าท่าเข้าทางหน่อย ประเภทอ่านชื่อหนังแล้วอยากวิ่งเอาหัวกระแทกฝาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เช่น โรตี...วิ่งสู้ฟัด น่ะ ขอบิณฑบาตเถอะ ดีไมดีเขานึกว่า หนังสองเรื่องควบ หนังอินเดียเรื่อง หนังจีนเรื่อง เฮ้อ...... และควรใส่ชื่อเดิมเอาไว้เพื่อให้คนซื้อเขารู้ว่ามาจากหนังเรื่องไหน
ส่วนหนังแผ่นอินเดียที่ทำเป็นดีวีดีนั้นจัดว่าอยู่ในระดับอินเตอร์แล้ว ชาวอินเดียมีอยู่ทั่วทุกทวีป แฟนหนังอินเดียมีอยู่ทั่วโลก สถิติผู้ชมหนังอินเดียทั่วโลกนั้นฮอลลีวู้ดยังชะเงื้อมอง
ส่วนในประเทศไทยเรา ตอนนี้มีบางเรื่องทำเป็น ดีวีดี และ อีซี่ดีวีดี ( แผ่นเดียว) ราคาใกล้กับวีซีดี ก็ได้รับการตอบรับดีพอสมควร
ตรงนี้น่าจะเป็นทางออกในการลดต้นทุนได้ ในเมื่อปัจจุบันเครื่องเล่น ดีวีดี ราคาถูกลง (บางรุ่นไม่ถึงสองพัน) ตลาดดีวีดีกำลังขยาย ดีวีดีหนังหลายเรื่องทำเป็นสองเวอร์ชั่น แบบธรรมดา กับแบบพิเศษ ( เพิ่มฟีเจอร์ หรือระบบเสียง หรือเป็นดีวีดี 9 )
ตลาดหนังแผ่นอินเดียพากย์ไทย จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพในอนาคต
สำหรับหนังอินเดียดีวีดี วีซีดี ภาษาฮินดี เสียงในฟิล์ม บรรยายอังกฤษที่อิมพอร์ตเข้ามาในไทยนั้น กำลังเก็บข้อมูลอยู่ครับ พร้อมเมื่อไรจะนำมาสาธยายให้อ่านกัน
ท่านใดมีข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม หรือมีข้อแนะนำ เชิญส่งมาได้ครับ
E-mail : b2t@rediffmail.com bollywood2thai@yahoo.com
Bollywood2Thai wrote: ปัจจุบันหากจะประมวลจากปัจจัยส่งเสริมคือการพัฒนาคุณภาพของหนังอินเดียดีขึ้น การค้าระหว่างไทยกับอินเดียขยายตัวขึ้น อินเดียเองก็ปรับทิศทางการลงทุนการตลาดระดับนานาชาติ อนาคตการตลาดหนังอินเดียในระดับนานาชาติจึงมีโอกาสก้าวหน้าไปมาก โดยมีฐานผู้ชมจากชาวอินเดียเป็นพื้น ต่อยอดด้วยผู้ชอบความเป็นตะวันออก และกลิ่นอายแห่งอารยะธรรมภารตะ กอปรกับ จุดขาย หนังอินเดียที่มีดาราระดับแม่เหล็ก อาทิ ซาฮ์ รุข ข่าน อมิตาป บาจาห์น อิสวารายา ไร ปรีตี้ วินต้า จอห์น อับบราฮัม ฯลฯ เป็นตัวชูโรง มีการถ่ายทำในต่างประเทศ ร่วมทุนกับต่างชาติ หรือแม้กระทั่งนำนักร้องจากต่างชาติเข้าไปร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ( DHOOM ) ที่น่าจับตาคือ ระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม มีช่องหนังอินเดีย มิวสิควีดีโออินเดีย แพร่ภาพกว้างไกลไปทั่วโลก ย่อมส่งผลให้การตลาดหนังอินเดียขยายไปทั่วโลก สำหรับรอบ ๆ เมืองไทยเรา ในมาเลย์เซีย สิงคโปร์ นั้น หนังอินเดียได้รับความนิยมไม่น้อยหน้าใคร ยิ่งดีวีดีหนังอินเดียบางเรื่องนอกจากมีซับภาษาอังกฤษแล้วยังมีภาษามาเลย์อีกด้วย สำหรับในไทยก็ดูทีท่าว่าน่าจะไปได้แต่ทั้งนี้ต้องมีการนำเสนอข้อมุลข่าวสารอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผู้ค้า ผู้ผลิต ครีเอทีฟ ก้อปปี้ไรเต้อร์และสื่อมวลชนต้องทำการบ้าน มากขึ้น ที่จริงข้อมูลหนังบอลลีวู๊ดทางอินเตอร์เน็ตนั้นก็มีท่วมท้น อัพเดทกันตลอด หรือแมกกาซีนหนังอินเดีย( อาทิฟิล์มแฟร์ ) ก็มาตรฐานสูง ดังนั้นการโปรโมทหนังอินเดียคงไม่เป็นเรื่องเหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำได้ ( แต่ขอร้องเถอะ...อย่าโปรโมท แบบเฉิ่ม ๆ เช่นว่า นำโดย...บ...บ...บ....ชื่อฝรั่ง ดังในไทย แต่นามสกุลย้ายไปอยู่บอมเบย์ ควรหาอะไรที่ใช้กี๋นมากกว่านี้หน่อย ได้โปรดเถอะ......) ชื่อหนังก็ตั้งให้เข้าท่าเข้าทางหน่อย ประเภทอ่านชื่อหนังแล้วอยากวิ่งเอาหัวกระแทกฝาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เช่น โรตี...วิ่งสู้ฟัด น่ะ ขอบิณฑบาตเถอะ ดีไมดีเขานึกว่า หนังสองเรื่องควบ หนังอินเดียเรื่อง หนังจีนเรื่อง เฮ้อ...... และควรใส่ชื่อเดิมเอาไว้เพื่อให้คนซื้อเขารู้ว่ามาจากหนังเรื่องไหน ส่วนในประเทศไทยเรา ตอนนี้มีบางเรื่องทำเป็น ดีวีดี และ อีซี่ดีวีดี ( แผ่นเดียว) ราคาใกล้กับวีซีดี ก็ได้รับการตอบรับดีพอสมควรตรงนี้น่าจะเป็นทางออกในการลดต้นทุนได้ ในเมื่อปัจจุบันเครื่องเล่น ดีวีดี ราคาถูกลง (บางรุ่นไม่ถึงสองพัน) ตลาดดีวีดีกำลังขยาย ดีวีดีหนังหลายเรื่องทำเป็นสองเวอร์ชั่น แบบธรรมดา กับแบบพิเศษ ( เพิ่มฟีเจอร์ หรือระบบเสียง หรือเป็นดีวีดี 9 )ตลาดหนังแผ่นอินเดียพากย์ไทย จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพในอนาคต สำหรับหนังอินเดียดีวีดี วีซีดี ภาษาฮินดี เสียงในฟิล์ม บรรยายอังกฤษที่อิมพอร์ตเข้ามาในไทยนั้น กำลังเก็บข้อมูลอยู่ครับ พร้อมเมื่อไรจะนำมาสาธยายให้อ่านกันท่านใดมีข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม หรือมีข้อแนะนำ เชิญส่งมาได้ครับE-mail : b2t@rediffmail.combollywood2thai@yahoo.com -- Edited by Bollywood2Thai at 09:20, 2005-04-06
กอปรกับ จุดขาย หนังอินเดียที่มีดาราระดับแม่เหล็ก อาทิ ซาฮ์ รุข ข่าน อมิตาป บาจาห์น อิสวารายา ไร ปรีตี้ วินต้า จอห์น อับบราฮัม ฯลฯ เป็นตัวชูโรง มีการถ่ายทำในต่างประเทศ ร่วมทุนกับต่างชาติ หรือแม้กระทั่งนำนักร้องจากต่างชาติเข้าไปร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ( DHOOM )
ที่น่าจับตาคือ ระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม มีช่องหนังอินเดีย มิวสิควีดีโออินเดีย แพร่ภาพกว้างไกลไปทั่วโลก ย่อมส่งผลให้การตลาดหนังอินเดียขยายไปทั่วโลก
สำหรับในไทยก็ดูทีท่าว่าน่าจะไปได้แต่ทั้งนี้ต้องมีการนำเสนอข้อมุลข่าวสารอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผู้ค้า ผู้ผลิต ครีเอทีฟ ก้อปปี้ไรเต้อร์และสื่อมวลชนต้องทำการบ้าน มากขึ้น
ดังนั้นการโปรโมทหนังอินเดียคงไม่เป็นเรื่องเหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำได้ ( แต่ขอร้องเถอะ...อย่าโปรโมท แบบเฉิ่ม ๆ เช่นว่า นำโดย...บ...บ...บ....ชื่อฝรั่ง ดังในไทย แต่นามสกุลย้ายไปอยู่บอมเบย์ ควรหาอะไรที่ใช้กี๋นมากกว่านี้หน่อย ได้โปรดเถอะ......)
E-mail : b2t@rediffmail.combollywood2thai@yahoo.com