เพราะเหตุใดบอลลีวู้ดแห่งอินเดียจึงสามารถเขย่าบัลลังก์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์อย่างฮอลลีวู้ดได้ เจาะลึกถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ภาพยนตร์ซึ่งมุ่งนำเสนอความรื่นเริงบันเทิงใจมากกว่าความแร้นแค้นของสังคมอินเดีย และชื่นชอบความโรแมนติกมากกว่าความสมจริง ผงาดขึ้นครองใจคนดูกว่า 3,600 ล้านคนทั่วโลกได้ โดยไม่มีพรมแดนทางเชื้อชาติศาสนามาขีดคั่น
ชาห์ รุข ข่าน คือเทพบุตรเดินดิน หญิงในชุดส่าหรีสีแดงสดมั่นใจว่า เขาคนนี้คือเทพเจ้าแท้ๆ ดาราหนุ่มและคณะผู้ติดตามเลี้ยวรถเข้าไปยังลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในจัณฑีครห์ เมืองหลวงของรัฐปัญจาบ โดยมีกลุ่มสาววัยรุ่นวิ่งกรีดร้องตรงมายังชาห์ รุขที่กำลังก้าวลงจากรถ ชันโน สิงห์ คุณแม่ลูกสองวัย 30 เศษในชุดส่าหรีสีแดงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดขีดจนน้ำตาปริ่ม เธอตะโกนเรียกชื่อดาราหนุ่มจนสุดเสียง "ชาห์ รุข ชาห์ รุข" ชันโน สิงห์ อยากสัมผัสดาราขวัญใจสักครั้ง "ชาห์ รุขต้องเป็นเทพอวตารแน่ๆเลยค่ะ" เธอบอก ส่วนเด็กชายซึ่งเกาะแขนแม่อยู่มีท่าทีเขินอาย ชันโนต้องปะทะคารมกับสามีและกะเตงลูกชายคนนี้มายังโรงแรมที่ "เทพบุตร" พำนักอยู่ เพื่อหาคำตอบว่า "เขาเป็นคนเดินดินจริงๆเหมือนพวกเราหรือเปล่า" ชันโน สิงห์ อาจไม่มีวันได้แตะต้องตัวชาห์ รุข ข่านเลยก็เป็นได้ ดังนั้นเธอจึงต้องบูชาเขาใน "วิหาร" หรือโรงหนังที่มีสาวกอีกนับล้านๆคนไปชุมนุมกัน เพราะชาห์ รุข ข่าน คือดาราผู้โด่งดังที่สุดในวงการภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นศิลปะเพื่อมหาชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอินเดีย อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียเป็นที่รู้จักในนาม "บอลลีวู้ด" (Bollywood) เพราะหนังส่วนใหญ่มีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองมุมไบหรือชื่อเก่าว่าบอมเบย์ และถือเป็นธุรกิจภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งผลิตหนังและดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าฮอลลีวู้ด มีการเปรียบเทียบตัวเลขในปี 2003 ว่า หากอเมริกาสร้างหนังได้ราว 700 เรื่องต่อปี อินเดียกลับสร้างได้ถึง 877 เรื่อง โดยหนึ่งในสามของหนังทั้งหมดถ่ายทำเป็นภาษาฮินดีซึ่งเป็นภาษาราชการของอินเดีย และทั่วโลกมีผู้ชมหนังอินเดียถึง 3,600 ล้านคนต่อปี มากกว่าผู้ชมหนังฮอลลีวู้ดถึง 1,000 ล้านคน ปัจจุบัน ภาพยนตร์บอลลีวู้ดไม่เพียงเป็นตราสินค้าที่ทั่วโลกรู้จัก เช่นเดียวกับชาดาร์จีลิงหรือทัชมาฮาล แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของอินเดียอีกด้วย โดยมีฐานผู้ชมอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง เอเชียกลาง แอฟริกา ละตินอเมริกา ไม่เว้นแม้กระทั่งอเมริกาและยุโรป คอหนังอินเดียส่วนใหญ่ในสองภูมิภาคหลังนี้เป็นผู้อพยพจากประเทศที่หนังบอลลีวู้ดได้รับความนิยมอยู่แล้ว และสร้างรายได้แก่บอลลีวู้ดคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 60 ของรายได้ที่ได้จากต่างประเทศทั้งหมด ถึงกระนั้น ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ซึ่งแทบไม่เคยได้ชมหนังอินเดีย หรือถ้าเคยก็ไม่เกินเรื่องสองเรื่อง กลับรู้สึกว่าหนังภารตะนั้นใสซื่อและออกจะน้ำเน่าเกินไป หนังเน้นความเลิศหรูอลังการเหล่านี้ยาวไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง และมีดาราร้องรำทำเพลงแทบตลอดทั้งเรื่อง มิหนำซ้ำพล็อตหรือโครงเรื่องก็ไม่น่าเชื่อถือ โดยดำเนินเรื่องอิงเหตุบังเอิญต่างๆนานาและความคาดหวังที่ไม่สมจริง ดารานำมักเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือเปลี่ยนฉากปุบปับหลายครั้งภายในเพลงเดียว แต่ใช่ว่าคนดูจะใส่ใจ เพราะแฟนหนังบอลลีวู้ดต้องการกระโจนเข้าสู่โลกมายาที่ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ รักแท้สามารถพิชิตทุกอย่าง และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ต้องยอมหลีกทางให้อารมณ์และความอ่อนไหว
ขอขอบคุณ www.ngthai.com
Bollywood2Thai wrote: เพราะเหตุใดบอลลีวู้ดแห่งอินเดียจึงสามารถเขย่าบัลลังก์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์อย่างฮอลลีวู้ดได้ เจาะลึกถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ภาพยนตร์ซึ่งมุ่งนำเสนอความรื่นเริงบันเทิงใจมากกว่าความแร้นแค้นของสังคมอินเดีย และชื่นชอบความโรแมนติกมากกว่าความสมจริง ผงาดขึ้นครองใจคนดูกว่า 3,600 ล้านคนทั่วโลกได้ โดยไม่มีพรมแดนทางเชื้อชาติศาสนามาขีดคั่น ชาห์ รุข ข่าน คือเทพบุตรเดินดิน หญิงในชุดส่าหรีสีแดงสดมั่นใจว่า เขาคนนี้คือเทพเจ้าแท้ๆ ดาราหนุ่มและคณะผู้ติดตามเลี้ยวรถเข้าไปยังลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในจัณฑีครห์ เมืองหลวงของรัฐปัญจาบ โดยมีกลุ่มสาววัยรุ่นวิ่งกรีดร้องตรงมายังชาห์ รุขที่กำลังก้าวลงจากรถ ชันโน สิงห์ คุณแม่ลูกสองวัย 30 เศษในชุดส่าหรีสีแดงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดขีดจนน้ำตาปริ่ม เธอตะโกนเรียกชื่อดาราหนุ่มจนสุดเสียง "ชาห์ รุข ชาห์ รุข" ชันโน สิงห์ อยากสัมผัสดาราขวัญใจสักครั้ง "ชาห์ รุขต้องเป็นเทพอวตารแน่ๆเลยค่ะ" เธอบอก ส่วนเด็กชายซึ่งเกาะแขนแม่อยู่มีท่าทีเขินอาย ชันโนต้องปะทะคารมกับสามีและกะเตงลูกชายคนนี้มายังโรงแรมที่ "เทพบุตร" พำนักอยู่ เพื่อหาคำตอบว่า "เขาเป็นคนเดินดินจริงๆเหมือนพวกเราหรือเปล่า" ชันโน สิงห์ อาจไม่มีวันได้แตะต้องตัวชาห์ รุข ข่านเลยก็เป็นได้ ดังนั้นเธอจึงต้องบูชาเขาใน "วิหาร" หรือโรงหนังที่มีสาวกอีกนับล้านๆคนไปชุมนุมกัน เพราะชาห์ รุข ข่าน คือดาราผู้โด่งดังที่สุดในวงการภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นศิลปะเพื่อมหาชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอินเดีย อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียเป็นที่รู้จักในนาม "บอลลีวู้ด" (Bollywood) เพราะหนังส่วนใหญ่มีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองมุมไบหรือชื่อเก่าว่าบอมเบย์ และถือเป็นธุรกิจภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งผลิตหนังและดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าฮอลลีวู้ด มีการเปรียบเทียบตัวเลขในปี 2003 ว่า หากอเมริกาสร้างหนังได้ราว 700 เรื่องต่อปี อินเดียกลับสร้างได้ถึง 877 เรื่อง โดยหนึ่งในสามของหนังทั้งหมดถ่ายทำเป็นภาษาฮินดีซึ่งเป็นภาษาราชการของอินเดีย และทั่วโลกมีผู้ชมหนังอินเดียถึง 3,600 ล้านคนต่อปี มากกว่าผู้ชมหนังฮอลลีวู้ดถึง 1,000 ล้านคน ปัจจุบัน ภาพยนตร์บอลลีวู้ดไม่เพียงเป็นตราสินค้าที่ทั่วโลกรู้จัก เช่นเดียวกับชาดาร์จีลิงหรือทัชมาฮาล แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของอินเดียอีกด้วย โดยมีฐานผู้ชมอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง เอเชียกลาง แอฟริกา ละตินอเมริกา ไม่เว้นแม้กระทั่งอเมริกาและยุโรป คอหนังอินเดียส่วนใหญ่ในสองภูมิภาคหลังนี้เป็นผู้อพยพจากประเทศที่หนังบอลลีวู้ดได้รับความนิยมอยู่แล้ว และสร้างรายได้แก่บอลลีวู้ดคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 60 ของรายได้ที่ได้จากต่างประเทศทั้งหมด ถึงกระนั้น ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ซึ่งแทบไม่เคยได้ชมหนังอินเดีย หรือถ้าเคยก็ไม่เกินเรื่องสองเรื่อง กลับรู้สึกว่าหนังภารตะนั้นใสซื่อและออกจะน้ำเน่าเกินไป หนังเน้นความเลิศหรูอลังการเหล่านี้ยาวไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง และมีดาราร้องรำทำเพลงแทบตลอดทั้งเรื่อง มิหนำซ้ำพล็อตหรือโครงเรื่องก็ไม่น่าเชื่อถือ โดยดำเนินเรื่องอิงเหตุบังเอิญต่างๆนานาและความคาดหวังที่ไม่สมจริง ดารานำมักเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือเปลี่ยนฉากปุบปับหลายครั้งภายในเพลงเดียว แต่ใช่ว่าคนดูจะใส่ใจ เพราะแฟนหนังบอลลีวู้ดต้องการกระโจนเข้าสู่โลกมายาที่ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ รักแท้สามารถพิชิตทุกอย่าง และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ต้องยอมหลีกทางให้อารมณ์และความอ่อนไหว อ่านเรื่องราวทั้งหมดอย่างจุใจได้จาก นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทยเรื่องโดย สุเกตุ เมหะตา ภาพถ่ายโดย วิลเลียม อัลเบิร์ต อัลลาร์ด ขอขอบคุณ www.ngthai.com -- Edited by Bollywood2Thai at 19:42, 2005-03-13 -- Edited by Bollywood2Thai at 11:07, 2005-03-17