Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ความมหัศจรรย์ของเศรษฐกิจอินเดียที่โลกลืม


Senior Member

Status: Offline
Posts: 379
Date:
ความมหัศจรรย์ของเศรษฐกิจอินเดียที่โลกลืม
Permalink   


โดย อาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

       แต่ก่อนร่อนชะไร นักลงทุนอินเดียเฝ้าดินฟ้าอากาศของฤดูมรสุมอย่างหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะรู้ดีว่าฝนมาทันเวลาหรือล่าออกไปหมายถึง รวยหรือเจ๊ง จากหุ้นที่ถืออยู่

     อย่างไรก็ดี ในรอบ 5-10 ปีที่ผ่านมา อิทธิพลของฝนที่มีต่อตลาดหุ้นลดน้อยถอยลง เป็นลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากการผลิตภาคเกษตรและผู้บริโภคในชนบทมีอิทธิพลในเศรษฐกิจอินเดียน้อยลงไปมาก

เศรษฐกิจอินเดียกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอย่างเงียบๆ

      การปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดียเริ่มต้นอย่างขาดๆ หยุดๆ ในกลางทศวรรษ 1980 และเร่งมือขึ้นอย่างมากในต้นทศวรรษ 1990

มีการยกเครื่องเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและสถาบันการเงินเป็นอันดับแรก ในช่วงเวลา 1985 ถึง 2001

GDP ที่แท้จริงต่อหัว ซึ่งเป็นตัววัดความกินดีอยู่ดีที่สำคัญขยายตัวร้อย 3.9 ต่อปี ซึ่งสูงเป็น 4 เท่าของอัตราขยายตัวในรอบ 30 ปีก่อนหน้านั้น

การเปลี่ยนแปลงนี้ก่อให้เกิดผลดีอย่างมากต่อมาตรฐานการครองชีพอย่างไม่เคย เป็นมาก่อนแก่คนอินเดีย โดยทั่วไป

อาจเรียกได้ว่าทั้งโลกลืมมองการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาของอินเดีย ซึ่งทำให้สัดส่วนคนที่ยากจนในประชากรลดลงจากร้อยละ 40 เป็น 20 ในขณะที่อายุเฉลี่ยของคนอินเดียเพิ่มขึ้นประมาณ 9 ปี

      ในรายงาน HUMAN DEVELOPMENT REPORT เล่มล่าสุดของ UNDP ได้ระบุว่า HUMAN DEVELOPMENT INDEX (ดัชนีการพัฒนาคน) ของอินเดีย เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 23 ระหว่าง 1985 ถึง 2000 ซึ่งอยู่ในระดับการเปลี่ยนแปลงเดียวกับจีนที่ผู้คนฮือฮากันมาก

       การสามารถควบคุมเงินเฟ้อไว้ได้ต่ำ มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูง มีภาคเกษตรและภาคบริการที่เข้มแข็งพอควร เป็นฐานสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจดังกล่าว พร้อมกับมีตัวผลักดัน การเจริญเติบโต (GROWTH DRIVERS) ใหม่ เช่น อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรม IT ที่เกิดขึ้นในรอบ 10 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านซอฟต์แวร์ที่บูมอย่างมากจนมีส่วนร่วมถึงร้อยละ 3 ใน GDP และร้อยละ 15 ของมูลค่าการส่งออกในปัจจุบัน

      เมื่อเทียบกับจีน อินเดีย ไม่มีประชากรกลุ่มใหญ่ที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง เช่น กรรมกร หรือผู้ใช้แรงงาน จนอาจเป็นพลังที่คว่ำการปฏิรูปได้

        ถ้าการควบคุมประชากรของอินเดียอย่างสมัครใจได้ผล เป็นที่เชื่อได้ว่า REAL GDP ต่อหัวจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์เชื่อว่าอินเดียจะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ และมั่นคง

เมื่อพูดถึงเรื่องประโยชน์ในทางสังคม อันเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ข้อเท็จจริงก็คืออัตราการตายของทารก ลดลงอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมาในระหว่าง 1985 ถึง 2001

การปฏิรูปเศรษฐกิจที่ส่งผลให้อัตราการตายของทารกลดลงได้ช่วยชีวิตเด็กไว้ประมาณ 800,000 คนต่อปี

         ปัจจุบันการดูโหงวเฮ้งอากาศของอินเดียมีความสำคัญนัอยลง เดิมถ้าฝนไม่มี ไม่ว่ามาช้า หรือไม่ตกมากพอควร หรือตกมากเกินไปก็หมายถึงอำนาจซื้อของเกษตรกรน้อยลง เพราะกว่าร้อยละ 22 ของ GDP อินเดียมาจากภาคอุตสาหกรรม แต่ถึงกระนั้นก็ตาม กว่าร้อยละ 60 ของคนอินเดีย หรือประมาณ 600 ล้านคน อาศัยภาคเกษตรสำหรับการดำรงชีวิต

         เมื่อ 10 ปีก่อน สัดส่วนของภาคเกษตรใน GDP เท่ากับร้อยละ 34 และลดลงมาเหลือเพียงร้อยละ 22 จนมีส่วนทำให้ผู้บริโภคในเมืองมีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิมในการการบริโภคสินค้าหลายหลากประเภท

ในขณะที่ผู้คนอพยพเข้าเมืองเป็นจำนวนมากและรับรายได้ที่สูงขึ้น

        อย่างไรก็ดี ภายใต้ทางโน้มที่น่าพอใจอินเดียกำลังประสบปัญหาโรค AIDS อย่างรุนแรงขึ้นในประชากรปัจจุบัน 1,000 ล้านคน มีอัตราส่วนของผู้ติดเชื้อ HIV อยู่ประมาณร้อยละ 0.8 ทั้งประเทศหรือ 8 ล้านคน

        บริเวณที่มีผู้คนติดเชื้อมากนั้นคือทางภาคกลางและตอนใต้ เช่น เมืองบอมเบย์ ไฮเดอรามัด มัทราส และบังกะลอร์ เมืองเหล่านี้มีอัตราของผู้ติดเชื้อ อยู่ประมาณระหว่างร้อยละ 5-8 ซึ่งถือว่าหนักมาก (ของไทยเรามีอยู่ประมาณ 8 แสนถึง 1 ล้านคน ในประชากร 63 ล้านคน ซึ่งตกประมาณร้อยละ 1.6)

        CIA ของสหรัฐอเมริกาประมาณการว่าก่อนสิ้นปี 2010 อินเดียจะมีคนติดเชื้อเอดส์ถึง 20-25 ล้านคน ซึ่งมากกว่าชาติใดๆ ในโลก

         สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับโรด AIDS ในอินเดียก็คือ มีความคิดเห็นในหมู่คนอินเดียที่มีการศึกษา และผู้นำความเห็นของประเทศอินเดียจำนวนมากว่า โรคเอดส์เป็นปัญหาของแอฟริกา วัฒนธรรมฮินดู และมุสลิม จะป้องกันอินเดียจากผลกระทบจากโรคเอดส์ สิ่งร้ายแรงนี้อาจเกิดขึ้นกับคนอื่นได้แต่กับพวกเขาแล้ว โรคนี้เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรงเพราะเรา "แตกต่าง" จากคนอื่น

       โรค AIDS ในอินเดียมีอัตราผู้ติดเชื้อ HIV ในกลุ่มผู้ใหญ่อยู่ระหว่างร้อยละ 0.9 ถึง 1.4 (ใน BOTSWANA ที่แอฟริกาอัตราเดียวกันนี้คือร้อยละ 35) ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ภาครัฐอินเดียต้องรีบทุ่มเททรัพย์เข้าไปแก้ไขโดยเร็ว หากทิ้งไว้เหตุการณ์จะเลวร้ายลงมากกว่านี้

         อินเดียเป็นตัวอย่างของเศรษฐกิจภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เริ่มประสบผลสำเร็จจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ สามารถเอาชนะอุปสรรคทางสถาบัน (เช่น ศาสนา ความเชื่อ วรรณะ) ซึ่งเศรษฐศาสตร์เคยเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ได้ในระดับหนึ่งอย่างงดงาม

        สังคมที่ผู้คนมีมาตรฐานการครองชีพดีขึ้นอย่างมีเสรีภาพ ไม่มีคุกขังคนไม่เห็นด้วยทางการเมือง ไม่มีการปิดกั้นข่าวสาร ไม่มีเผด็จการจากอำนาจไว้ในพรรคเดียว ไม่มีการแตกต่างของคนรวยและคนจน ราวฟ้ากับดินอย่างแพร่หลาย มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ฯลฯ ย่อมดีกว่าสังคมที่ได้ความกินดีอยู่ดี ระดับเดียวกันมาด้วยน้ำตา เลือด การไร้เสรีภาพและการกดขี่

-----------------------------
มติชน วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9232


-- Edited by Bollywood2Thai at 12:46, 2005-04-21

__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.

Tweet this page Post to Digg Post to Del.icio.us


Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard