ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ถึงความคืบหน้าในการจัดทำเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย (FTA) ว่า ล่าสุดคณะกรรมการเจรจาการค้าร่วมไทย-อินเดีย (JNG) ได้จัดประชุมร่วมกันไปแล้ว 5 ครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและจัดทำข้อตกลงการค้าระหว่างกัน โดยทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายปริมาณการค้าให้ เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านเหรียญ จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ โดยจะมีการผลักดันการปรับลดภาษีในสินค้า ระหว่างกันรวม 10 สาขา รวม 123 รายการ อาทิ อาหารทะเลกระป๋อง ไม้อัด อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

         ส่วนรูปแบบการปรับลดภาษี ทางอินเดียได้เสนอการปรับลดแบบสัดส่วน (Margine of Performances:MOP) ขณะที่ฝ่ายเสนอการปรับลดภาษี ที่กำหนดอัตราปรับลดลงอย่างชัดเจน (Absolute Cut) เช่นเดียวกับการปรับลดภาษีในกรอบการเปิดเสรีอาเซียน ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้เร่งหาข้อยุติในเรื่องกรอบระยะเวลา การปรับลดภาษีดังกล่าวให้ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีของอินเดียจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และจะได้มีการลงนามในเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกันในเดือน ต.ค.นี้ด้วย

       นายวินัย สัจเดว ประธานหอการค้าอินเดีย-ไทย เปิดเผยว่าตลาดส่งออกอินเดียในปัจจุบันถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันอินเดียมีการเปิดกว้างสำหรับการลงทุนมากขึ้น จากอดีตที่มีการเก็บภาษีการนำเข้าในระดับที่สูงมากถึง 60-70% แต่ปัจจุบันมีการปรับลดลงมาเหลือประมาณ 40% และในอนาคตหากมีการจัดทำความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน จะส่งผลให้มีการปรับลดภาษีมากกว่านี้ ส่วนตลาดการลงทุนที่น่าสนใจในอินเดียได้แก่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ

        สำหรับลู่ทางโอกาสการลงทุนของ 2 ประเทศนั้น คณะกรรมการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-อินเดีย หอการค้าอินเดีย-ไทย คณะกรรมกรธุรกิจไทย-อินเดีย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะจัดประชุมร่วมระหว่างนักธุรกิจไทย-อินเดียในที่ 10 ต.ค. นี้ โดยมีระดับผู้นำของทั้งสองประเทศเข้าร่วม.

ข่าวจาก  นสพ ไทยรัฐ 7 เมษายน 2548

เขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย (FTA) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.dtn.moc.go.th/ninfo/ver3.3/icommand/fta.asp?fdr=0440007244002006