Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: ผ่าหัวใจอินเดีย


Senior Member

Status: Offline
Posts: 379
Date:
ผ่าหัวใจอินเดีย
Permalink   


ทริปด่วนชวนเที่ยวสงกรานต์ # ผ่าหัวใจอินเดีย ๑ ฮาซาริบัค - วาราณศรี - คะจุระโฮ - ออชา Exotic - Excited - Erotic - Romantic

          ไม่แน่ใจว่าจะได้สมาชิกสักกี่คน แต่ลองอ่านทริปนี้ดูนะครับ ถ้าชอบแล้วยังไม่มีโปรแกรมไปไหนก็ติดต่อมาได้เลย

จัดกันยาวนาน คนไปก็ต้องวางแผน ถ้าปีนี้รวมคนไม่ทัน ก็อาจจะเป็นปลายปีโน่นไม่ก็ปีหน้า หรือปีโน้นล่ะครับ

      คนนำทริป - พี่จันทร์เคียว หรือ อาจจะกลายเป็น จันทรามณีเร็ว ๆ นี้ อิอิ

สไตล์ทริป - กึ่งแบ็คแพ็ค คนไปต้องพึ่งตนเองได้ในระดับหนึ่ง คนนำไม่เน้นการบรรยาย ควรทำการบ้านไปก่อน แล้วก็โรงแรมที่พัก อาหารก็เป็นแบบพื้น ๆ แต่สะอาดและปลอดภัยครับ

พุธที่ ๖ เมษา
ราวบ่ายโมงออกจากดอนเมือง ถึงกัลกัตตาเย็น นั่งรถไปฮาซาริบัค
(อาจเป็นรถบัสตรงไปฮาซาริบัค หรือถ้าเป็นรถไฟ จะต้องไปลงที่รานจี แล้วต่อรถบัสไปฮาซาริบัคอีก ๓ ชั่วโมง
เรื่องไปรถบัส หรือ รถไฟ รอดูสถานการณ์อีกที)

พฤหัส ๗ เมษา
ถึงฮาซาริบัค เข้าพักที่ Sanskriti Centre พักผ่อนเล็กน้อย บ่ายเตรียมตัวไปหมู่บ้านแต้มสี
หอศิลปะที่ยังมีชีวิต ด้วยบ้านดินหลากลวดลาย เปี่ยมสีสันทั่วทั้งหมู่บ้าน
ยังเป็นบ้านดินของชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ยังอยู่อาศัยอย่างสุขบ้าง ทุกข์บ้างตามอัตภาพ

ข้อมูลเพิ่มเติมของ http://www.sanskritihazaribagh.com/

ศุกร์ ๘ เมษา
พรุ่งขึ้น เตรียมตัวไปเที่ยวป่า
ดูภาพจิตรกรรมบนผนังหินที่เก่าแก่ราว ๕-๙ พันปีก่อนคริสตกาล งานจิตรกรรมที่สมบูรณ์ยิ่ง เต็มผนังหินของหุบเขา
ระหว่างทางในป่า Isco จะผ่านหมู่บ้านแต้มสี รายทางไปเรื่อยๆ
ค่ำกลับมานอนที่ Sanskriti Centre

เสาร์ ๙ เมษา
ตื่นสายๆ พักผ่อนเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินทางไกล
บ่ายออกเดินทางเข้ารานจี (Ranchi) เพื่อไปจับรถไฟเที่ยว ๒ ทุ่ม มุ่งหน้าไป Varanasi

อาทิตย์ ๑๐ เมษา
เช้าถึง เมืองวาราณศรี Varanasi หรือที่เรารู้จักดีในนาม พาราณศรี
เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่มีเก่าแก่ที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกังก้า (Ganga) แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู
พิธี "ปูจา" Pooja หรือ บูชา ที่ทำกันมาแต่โบราณกาลก็ยังสืบทอดกันอยู่ เราจะได้เห็นในทุกเช้า ทุกเย็น
พิธีเผาศพริมน้ำของชาวฮินดู การเผาศพแบบง่ายๆ ธรรมดาสามัญๆ บนกองฟืน สามัญธรรมดาจนเราเองนึกไม่ถึง และถึงขั้นแปลก!

วันนี้จะพาเดินกันให้หลงเมือง ในความหมายทั้งหลงใหล และ หลงทาง!
ด้วยย่านเมืองเก่าริมน้ำกังก้าของวาราณศรีนั้นเป็นทางเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยซอกซอย ให้เราเดินซอกซอน
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนซอกแซก และซุกซน ส่วนจะซุ่มซ่ามหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลงทาง
(คนวาราณศรีบอกฉันว่า มาวาราณศรีครั้งแรก ถ้าๆไม่หลงถ้าว่าเข้าไม่ถึงวาราณศรี - แล้วกัน!)

พักที่ Ganga Fuji Home - Home Away from Home ที่เจ้าของใจดีมากๆ ไม่รู้คราวนี้จะใจดีทำอาหารให้เราทานอีกหรือเปล่า
คงต้องจอให้สาวๆ ไปเจรจา

จันทร์ ๑๑ เมษา
เช้านี้เราจะล่องเรือ ชมชีวิตริมน้ำของชาววาราณศรี ส่วนใหญ่จะเห็นหนุ่มๆ ทั้งหนุ่มเล็ก หนุ่มใหญ่ มาอาบน้ำกันทุกเช้า
ทั้งคนนั่งสมาธิ คนมา "ปูจา" คนมาซักผ้า และคนมาหาเหยื่อ - อันหมายถึงนักท่องเที่ยงแบบเราๆ
แค่ระวังตัวอย่ารับกระทงดอกไม้ ไม่หลงคารมใครๆ เท่านั้นก็พอแล้ว

วันนี้โปรแกรมเที่ยวจะสบายๆ หลังจากนั้นเราจะไปเที่ยวที่มหาวิทยาลัย Benares Hindu
ศูนย์กลางการเรียนศิลปะ ดนตรี วัฒนธรรม จิตวิทยา และภาษาสันสกฤษ

ตกค่ำ ทานอาหารฟังดนตรี ที่ Ganga Fuji Restaurant บรรยากาศดี ดนตรีแขก :)

อังคาร ๑๒ เมษา
วันนี้ปล่อยให้เดินกันตามสบาย ใครอยากเดินนับ ghat (ท่าน้ำ) ก็เดินนับได้ไม่มากไม่มายราว ๑๐๐ กว่า ghat เท่านั้น
ใครอยากนั่งริม ghat จิบมาสซาร่าไช (masala chai - ชาร้อนแบบอินเดีย) เขียนโปสการ์ด หรือคุยกับใครก็ตามสบาย
ใครอยากชอปปิ้ง ก็ระวังกระเป๋าฉีกกันเองจ้า

หลังทานอาหารค่ำ เราจะไปจับรถไฟเที่ยว ๕ ทุ่ม เพื่อไปเมือง สัตนา (Satna) มุ่งหน้าไปคะจูระโฮ

พุธ ๑๓ เมษา
(ถ้ารถไฟไม่เสียเวลา) เช้า ถึงสัตนา หาอะไรกินง่ายๆ ต่อรถบัสทันที เพื่อไปคะจูระโฮ อีกราว ๔ ชั่วโมงครึ่ง
บ่ายถึง Khajuraho เมือง เข้าที่พักก่อน เย็นนี้เราจะเดินเล่น ไปทางหมู่บ้านเก่า (old village)
เผื่อจะเจอเพื่อนเก่าที่น่ารักแห่งหมู่บ้านดั้งเดิม

พฤหัส ๑๔ เมษา
พยายามตื่นให้เช้าที่สุด เพราะวัดกลุ่มตะวันตก (ที่ต้องเสียค่าผ่านประตู) เปิดตั้งแต่ ๖ โมง
ช่วงเช้าหลังอาหารเช้า เราจะเดินดูวัดที่อีโรติกที่สุดในโลก อาจจะเดินกันตามอัธยาศัย
และเราจะได้ไกด์โดยไม่ต้องจ้างๆ เพราะกลุ่มลุงๆ ป้าๆ ข้างๆ จะมีไกด์อธิบายตลอด เราคอยเงี่ยหูฟังและรอขำอย่างเดียว

เสร็จจากกลุ่มวัดตะวันตก หาข้าวกิน ช่วงบ่ายไปต่อกันที่กลุ่มตะวันออกที่อยู่ทางหมู่บ้านดั้งเดิม
ค่ำๆ ได้เวลาหาซื้อหนังสือ Kama Sutra ที่มีหลากหลายเวอร์ชั่น ทั้งเล่มเล็ก เล่มใหญ่ ทั้งรูป ทั้งคำอธิบาย ฯลฯ :)

ศุกร์ ๑๕ เมษา
ตื่นเช้า หลังอาหาร ออกเดินทางโดยรถบัส ราว ๕ ชั่วโมง เราจะถึงเมืองลับแล Orchha อ่านว่า ออชา
เมืองเล็กๆ น่ารัก ที่ถูกอกถูกใจฉันเป็นหนักหนา ค่ำนี้เดินเล่นๆ ก่อน กินลมชมเมือง
ส่วนช่วงค่ำ ๑ ทุ่ม ใครอาจจะอยากเข้าไปดูพิธีของชาวฮินดูมีวัดรามราชา อันศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าเราจะเป็นชาวพุทธอันนี้ชาวเมืองใจดีอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะตัวและหัวใจ ส่วนกล้องถ่ายรูปเข้าไม่ได้ค่ะ

เสาร์ ๑๖ เมษา
ตื่นเช้ามากินข้าวเช้า แล้วเริ่มตะลุยเดินเที่ยวกลุ่มวังเก่า ที่ต้องเดินข้ามสะพาน ข้ามแม่น้ำเบตวาไป
วังเก่าที่เหมาะจะเป็นที่เล่นซ่อนหามากกว่า
เดินเลาะไปตามแม่น้ำ ไปดูสุสานของราชาแห่งออชา เดินไปวัดลักษมีที่มองเห็นอยู่ลิบๆ
- วันนี้ทั้งวัน เราต้องเดินให้ได้มากที่สุด
หลังอาหารค่ำ และบอกลาเมืองออชา เราจะไปจานศรี (Jhansi) เพื่อจับรถไเที่ยวเที่ยงคืน ไปเดลลี

อาทิตย์ ๑๗ เมษา
เช้าถึงเดลลี ถ้ามีเวลามากพอจะหาที่พักกระเป๋า อาบน้ำ เผื่อใครจะซื้ออะไร ใช้เงินให้หมด ก่อนกลับบ้าน
(เพราะดิฉันเองตั้งใจจะหอบหนังสือค่ะ) หลังอาหารค่ำ ราว ๓ ทุ่ม ไปสนามบินเดลลี

จันทร์ ๑๘ เมษา
บินเที่ยวบินเวลา ๐๐:๕๐ น. เวลาอินเดีย ถึงบางกอกเวลา ๐๖:๒๐ น.ตามเวลาไทย
เตรียมตัวไปทำงานจ้า ทริปหน้าเจอกันใหม่

๑๒ วัน ๑๒ คืน ราคา 36900 บาท
รับไม่เกิน ๑๒ คน (ทริปออก ณ ๘ คน)
อินเดียนแอร์ไลน์ - แม้บริการจะแย่ แต่เหตุผลคือบินทุกวัน และมีโอกาสได้ที่นั่งมากกว่าการบินไทย

== สำคัญ ==
รูปแบบทริป
ไปลุยแบบ BackPacker เต็มที่ เดินทางโดยรถไฟ รถบัส ตุ๊กๆ - ส่วนใหญ่ไม่มีเหมารถ

ยกเว้นไปฮาซาริบัคที่ใช้รถไปเที่ยวป่า และเที่ยวหมู่บ้าน

คุณเหมาะกับทริปนี้ไหม
ถ้าคุณดูแลตัวเองได้ แบกเป้ตัวเองเดินสบายๆ กินอยู่ง่าย หัวใจเปิดประตู ไม่ติดโรงแรมหรูและดาว
คุณก็ไปกับเราได้แล้วจ้ะ


*** ตอนนี้ยังไม่ขอลงรายละเอีดยอื่นในการโอนมัดจำ ขอดูรายชื่อท่านที่สนใจก่อนนะครับ ใครสนใจ ลงชื่อกันไว้ได้เลย แล้วเตรียมโอนมัดจำ 20000 บาทเข้ามาได้ (เอาไปซื้อตั๋วกับทำวีซ่าอินเดีย) **


จาก   http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?board=proposal&content=0546

__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.

Tweet this page Post to Digg Post to Del.icio.us


Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard