เพราะปกติร้านอาหารอินเดียก็มีขายกันอยู่ไม่น้อย แต่ส่วนมากจะเป็นร้านอาหารธรรมดาแบบชาวบ้าน หรืออย่างดีขึ้นมาหน่อยก็เป็นแบบห้องอาหารติดแอร์ แต่ถ้าจะกินแบบมหาราชาหรือแบบที่คนรวยของประเทศอินเดียเขากินกันนั้น นอกจากอาหารจะต้องปรุงแต่งมาอย่างดีเลิศแล้วแม้แต่เครื่องถ้วยชามยังจะต้องเป็นเครื่องเงินขัดมันวาววับถึงจะสมเกียรติสมฐานะกันหน่อย

        ราง มาฮาล นั้นเป็นภาษาอินเดียหมายถึงสถานที่จัดเลี้ยงของพระราชาหรือชนชั้นสูงในสังคมของชาวอินเดีย หรือถ้าเป็นบ้านเราก็คงเป็นแบบคลับ เฮ้าส์ชั้นสูงที่บรรดาผู้ดีมีเงินมาพบปะสังสรรค์กัน
        เจ้าของโรงแรมแรมแบรนดท์เป็นชาวอิเดีย จึงไม่แปลกที่เขาจะมีรสนิยมและเชี่ยวชาญในด้านอาหารอินเดีย การทำห้องอาการราง มาฮาล จึงเพื่อให้เป็นห้องห้องอาหารที่หรูหราสำหรับสังคมอินเดียในเมืองไทย มีการตกแต่งภายในอย่างประณีตบรรจง ตามวัฒนธรรมการกินของอินเดียอย่างแท้จริง โดยนักออกแบบชื่อดังจากอินเดียนามว่าศิราน แพ็ทคิ

        นอกจากนี้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งโต๊ะ โซฟา ผ้าปูโต๊ะ รวมทั้งอุปกรณ์ในการกินทุกชิ้นล้วนเลือกสรรมาอย่างดีจากประเทศอินเดีย อย่างเช่นช้อน ส้อม ถ้วยโถโอชามนั้นต้องทำด้วยเงินสุกใสประกายแวววาวเท่านั้น
        ส่วนรสชาติอาหารนั้นเป็นสูตรดั้งเดิมที่นำมาจากราชสำนักของกษัตริย์MOGHAL ซึ่งครองราชย์เมื่อประมาณ 150 ปีที่ผ่านมา ถ้าเป็นบ้านเราก็ต้องบอกว่าเป็นอาหารชาววังโบราณ ซึ่งปกติแล้วอาหารอินเดียจะเผ็ดร้อนด้วยเครื่องเทศแต่สำหรับห้องราง มาฮาลนั้นจะเป็นรสชาติจะตามแบบฉบับของอินเดียทางตอนเหนือที่จะรสกลมกล่อมกว่าทางใต้ที่รสจัดจ้านกว่า

        ห้องอาหารแห่งนี้ได้รับการโหวตจากลูกค้าให้เป็นอาหารอินเดียในดวงใจมาก 6 ปีซ้อนจากการจัดอันดับของแมกกาซีน Bangkok Dinning and Entertainment เพราะเขาลงทุนจ้างเชฟจากั๊ด ราม ซึ่งเป็นเชฟมือหนึ่งจากอินเดียมาประจำ แถมมีลูกมือที่เป็นเชฟชาวอินเดียอีกถึง 3 คน ดังนั้นคงไม่ต้องถามว่าอร่อยไหมกันอีกแล้ว

        จานยอดนิยมที่คนไทยชอบสั่งคือ ข้าวหมกแพะ(375บาท) ต้องบอกว่าเป็นของแท้ดั้งเดิมเพราะคนอินเดียถือว่าแพะเป็นอาหารสุดยอดของเขา เนื้อแพะไม่มีกลิ่นสาบให้ระคายจมูก หุงด้วยข้าวมาสปาตีของอินเดียสีเหลืองเม็ดยาว เค้ยวแล้วทั้งหอมกลิ่นเครื่องเทศและนุ่มลิ้นอร่อยมาก ไม่ต้องเรียกหาอาจาดเหมือนเรากินข้าวหมกไก่เลย จานนี้จะเสิร์ฟมาในกระทะทองแดงดูหรูหรามาก

        แกงกุ้ง Jheenga Kadhai (475 บาท) แกงของอินเดียต่างจากแกงของไทย คือไม่มีกะทิและไม่มีพริกแกง แต่ที่เห็นข้น ๆ นั้นเป็นมะเขือเทศสับแล้วก็ผัดกับเครื่องเทศให้มีรสจัด อาหารจานนี้จึงไม่เลียนไม่มันจัด กินแล้วไม่อ้วนแถมยังได้ประโยชน์จากเครื่องเทศอีกด้วย
        กุ้งชุปซานฟรอนทอดกรอบ อาหารจานนี้ถือว่าสุดยอดทั้งอร่อยและแพง เพราะแซฟฟรอนเป็นเครื่องเทศที่ให้สีและกลิ่นหอมในการทำอาหาร แต่ราคาแพงสุด ๆ กรัมละ 700 บาท แต่ก็อร่อยสมราคาทีเดียว

        นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่น ๆให้เลือกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภททันดูซึ่งเป็นอาหารประเภทย่างในเตาดินเหนียวจะให้รสชาติหอมตามธรรมชาติของกลิ่นดินเหนียว และที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารอินเดียคือ DAL , โรตีและ PAPAD