การกำเนิดของพระนางลักษมี มีการค้นพบหลักฐานทั้งจากตำนาน เรื่องเล่า และคัมภีร์ต่างๆ ที่พบมีการกล่าวไว้ต่างกันออกไป ดังนี้ ตำนานนิยายเก่าแก่ของอินเดีย ได้กล่าวถึงช่วงสมัยพระเวทไว้ว่าพระนางลักษมีได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ โดยพระนางเป็นที่ที่มีฐานะร่ำรวยในด้านทรัพย์สินอย่างมากมาย จนเกิดการแย่งชิงพระนางด้วยหวังในทรัพย์สินเหล่านั้น จนกาลต่อมาพระนางลักษมีจึงได้เป็นมเหสีของพระนารายณ์ในที่สุด ส่วนคัมภีร์รามายณะ กล่าวถึงตอนที่เหล่าเทวดาทั้งหลายทำพิธีกวนเกษียรสมุทร เพื่อทำน้ำอมฤต ซึ่งการกวนเกษียรสมุทรนี้ได้บังเกิดสิ่งวิเศษ ๑๔ อย่าง อาทิ น้ำอมฤต นางอัปสร เทวดา สิ่งของวิเศษต่าง ๆ รวมทั้งสัตว์เทวะ นางอัปสรที่บังเกิดขึ้นในครั้งนี้ได้มีพระนางลักษมีถือกำเนิดขึ้นมาด้วย
เมื่อครั้งพระนางลักษมีได้ปรากฏกายขึ้น ประกอบด้วยขณะนั้นพระนารายณ์ทรงอวตารเป็นเต่าใหญ่เพื่อรองรับไม่ให้โลกไว้ ได้แลเห็นพระนางลักษมีจึงเกิดความพึงพอใจ ดังนั้นด้วยอำนาจฤทธิ์เดชที่มีจึงบันดาลให้พระนางมาเป็นชายาของพระองค์ในด้านคัมภีร์วิษณุปุราณะ กล่าวว่าพระนางลักษมีเป็นธิดาของพระฤาษีภฤคุกับนางชยาติ ตำนานอื่น ๆ กล่าวไว้ดังนี้ พระนางลักษมีเกิดจากดอกบัวหลวง ต่อมาได้เข้าเฝ้าพระนารายณ์โดยได้ถือดอกบัวหลวงไปเข้าเฝ้าด้วย พระนารายณ์เกิดพึงพอพระทัยในพระนางยิ่งนักจึงได้อภิเษกเป็นพระชายาในที่สุด พระนามที่ได้เรียกขานพระนางลักษมี มีมากมาย และมีการกล่าวถึงเรื่องการอวตารของพระนารายณ์ไว้ว่า พระนางลักษมีผู้เป็นชายา จะอวตารลงมาทุกปางที่พระนารายณ์ได้อวตารลงมาด้วยเสมอ ดังจะกล่าวบางส่วนไว้ดังนี้ พระนามเรียกขาน อาทิ ชลธิชา ผู้เกิดแต่น้ำ (เหตุจากคัมภีร์รามายณะ) ปัทมา ผู้มีดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ ภควดี หญิงงามทั้งรูปและกิริยามารยาท มีวาจาไพเราะ เป็นผู้นำแห่งความเจริญทุกประการ การอวตารลงมาของพระนางลักษมี เมื่อพระนารายณ์อวตารลงเป็นพระราม พระนางลักษมี ทรงอวตารเป็นนางสีดา พระนารายณ์อวตารเป็นพระกฤษณะ พระนางลักษมี อวตารเป็นนางรุกมิณี พระนารายณ์อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย (ปางวามนาวตาร) พระนางลักษมี อวตารเป็นนางกมลา พระนารายณ์อวตารเป็นพราหมณ์ถือขวาน นามปรศุราม (ปางปรศุรามาวตาร) พระนางลักษมี อวตารเป็นนางธรณี
รูปเคารพทางศิลปะที่ค้นพบจนถึงปัจจุบัน พระนางลักษมี ประทับยืนบนดอกบัว และถือดอกบัว อาภรณ์ดั่งกษัตริย์ สวมมงกุฏ หรือรูปเคารพที่พระนางประทับนั่งบนดอกบัว พระวรกายสีทอง ทรงถือดอกบัวไว้ บางรูปเคารพที่พบพระนางลักษมี มี ๘ กร ทรงถือดอกบัว คันธนู คทา ลูกธนู ลูกล้อ หอยสังข์ ลูกบดไม้ และประตัก
ส่วนรูปเคารพที่พระนางลักษมี ๔ กรนั้น พระวรกายสีทอง ทรงเครื่องประดับ พระกร ถือ ลูกล้อ หอยสังข์ ดอกบัว และคทา รูปเคารพที่พบทั้ง ๘ กร และ ๔ กร ที่ปรากฏให้เห็นมีทั้งพระนางลักษมี ประทับยืน และนั่งบนดอกบัว รูปเคารพที่มี ๒ กร ประทับยืนบนดอกบัว ถือ ดอกบัว และหอยสังข์ไว้ รูปเคารพที่พบในศาสนสถานของลัทธิไวษณพนิกาย มีลักษณะของพระนางลักษมี ประทับนั่งบนตักซ้ายของพระนารายณ์ พระบาทซ้ายงอเข้าหาพระบาทขวาตกลงล่าง พระนางมี ๔ กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา (บางรูปเคารพพระนางลักษมี มี ๒ กร ถือ ดอกบัวหลวง ทั้ง ๒ กร) รูปเคารพพระนางลักษมีนั่งเคียงข้างพระนารายณ์ ประทับบนขนดของพระยานาควาสุกรี พระองค์ทรงถือดอกบัว รูปเคารพบางรูปพระนางทรงนั่งตักพระนารายณ์ ทรงถือดอกบัวไว้ พระนารายณ์ประทับบนพระยาครุฑ รูปเคารพอื่น ๆ ที่ได้กล่าวถึงและในส่วนที่ไม่ได้กล่าวไว้ คือสิ่งที่ชาวอินเดียในแต่ละยุคสมัยได้สร้างสรรค์ขึ้นมาจากความพอใจของพวกตน บางก็เกิดจากแนวคิดแรงบันดาลใจของช่างผู้สร้างสรรค์ ความนิยมของผู้คนในแต่ช่วงสมัย ซึ่งได้ปรากฏลักษณะต่างกันไป และมีความหลากหลาย
บทสวดอัญเชิญและบูชาพระแม่ศรีลักษมีมหาเทวี (พระแม่ลักษมี)
โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะมะ ฮา 3 จบ โอม นมัสศิโรเม เตาเละหะมาละ สะลามะ มาเรกุล อาตคัจชะ มาลายะเฮ ดุนนะยะโฮ กะโฮ นะฮีนะ ตุนนะฮี ยะวานระโฮ ดูบำบะรา อาดัมบารา นะฮีนะกะโฮนะ วายะฮี ลักษณีเดาเลาหะมาล อาคัญชะมาฮาล อะสุราฮาล ทะชัชชะมาฮาล ทะชัชชะมาฮาล ทะชัชชะมาฮาล ปูชิตะวา โอม พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ ทุติยัมปิ พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ ตะติยัมปิ พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ